On Cloudeclipse หนานุ่ม ไม่ยวบแล้ว แต่เร่งไม่ขึ้น

ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้รีวิวรองเท้า On มานานมากแล้ว คู่สุดท้ายน่าจะ Cloudboom รุ่นแรก และเป็นคู่ที่ชอบมากๆ ด้วย (ใครมีไซส์ 9US และอยากส่งต่อทักมานะ) และก็มาได้ลองใส่รุ่น Cloudsurfer อีกทีตอนที่เขาเปลี่ยนเทคโนโลยีโฟม Helion ไปเป็น CloudTec Phase แถมถอดแผ่น Speedboard ออก ทำให้ได้รับความนุ่มขั้นสุด แต่ก็แลกมาด้วยอาการยวบหลังจากใช้งานไปบ้าง รอบนี้ On แก้มือด้วยการสานต่อสิ่งที่ดีเอาไว้ ปรับจูนใหม่ใส่แผ่นกลับมาจนกลายเป็น On Cloudeclipse ที่ทำได้ดีกว่าที่คิด

ความนุ่ม

โฟม Helion สุดนุ่ม

On Cloudeclipse เป็นรองเท้าวิ่งที่สานต่อความนุ่มมาจาก Cloudsurfer อย่างชัดเจน (ใครยังไม่ได้ดูรีวิว Cloudsurfer ลองดูที่นี่) และอย่างที่บอกว่าเขาแก้ปัญหาของรุ่นก่อนได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่โฟม Helion ที่มีความนุ่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาพร้อมกับเทคโนโลยี CloudTec Phase 2 ชั้น (แต่เดิมในรุ่น Cloudsurfer มีเพียงชั้นเดียว) ทำให้รองรับแรงกระแทกได้มากขึ้น โฟมแน่นขึ้นด้วย

ความเฟิร์ม

สิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาอาการยวบได้ตรงจุดคือการเอาแผ่น Speedboard กลับมา ซึ่งใครที่เป็นแฟนของ On อยู่แล้วจะคุ้นเคยกับแผ่นชนิดนี้ดี ซึ่งเป็นแผ่นไนลอนที่มาช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับรองเท้า ปกติเจ้าแผ่นนี้จะคั่นอยู่ระหว่างกลางของโฟม Helion แต่ในรุ่น Cloudeclipse ไม่สามารถทำได้เพราะตัวโฟมเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้เขาวางแผ่น Speedboard ไว้ที่ชั้นเกือบจะล่างที่สุดของ CloudTec Phase ที่พอเพิ่มเป็น 2 ชั้นก็ยุบตัวยากขึ้นนิดนึง

แผ่น Speedboard รูปตัว X ใต้เท้า

อีกทั้งแผ่น Speedboard นี้ยังมีลักษณะเป็นรูปตัว X คล้ายๆ กับพวก Torsion ของ adidas เลย ถามว่าใช้ได้ไหม ใช้ได้เลย อาการยวบหายไปอย่างชัดเจน โดยที่ความนุ่มยังอยู่ ถึงแม้ว่าแผ่น Speedboard จะไม่ได้ช่วยส่งแรงมากนักก็ตาม ที่สำคัญความเฟิร์มที่ได้ของ Cloudeclipse จะต่างจากความแข็งใน Cloudmonster ที่เหยียบลงไปแล้วเราจะรู้สึกได้เลยว่าเจอแผ่นอยู่ใต้เท้า

ความสบาย

นอกเหนือจากเรื่องความนุ่มแล้ว สิ่งที่ได้จาก On Cloudeclipse คือความสบายของหน้าผ้า ที่ได้มาจากวัสดุโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ที่สังเกตได้อีกอย่างคือลิ้นรองเท้าสั้นมาก ไม่ต้องกลัวบาดข้อเท้าเลย อันนี้ชอบเป็นพิเศษ ส่วนสีที่เราได้มาเป็นสี Flame / Ivory ซึ่งเป็นสีไฮไลต์มาตั้งแต่รุ่น Cloudsurfer แล้ว ต้องบอกว่าสวยจริงๆ ตัดกับสีเขียวต้นไม้ได้ดี โดดเด่นมาแต่ไกล นอกจากความสบายแล้วคู่นี้ยังหนัก 281 กรัม (ไซส์ 9US) ฟังดูอาจมาก แต่เวลาใส่วิ่งแล้วเราแถมไม่รู้สึกเลยว่ามันหนัก เพราะโดนความนุ่มกลบหมด

เทคโนโลยี CloudTec Phase 2 ชั้น

การใช้งาน

หลังจากเราเอา Cloudeclipse ไปลองวิ่งฮาล์ฟที่งาน Garmin Run 2023 มา พบว่าใช้ได้ดีเลย เราไม่ได้ทำความเร็วมากนัก อยู่ที่ประมาณเพซ 6 – 7 ความนุ่มสบายจัดให้ตลอดทาง ใช้งานได้ระยะสั้นจนถึงฮาล์ฟแน่นอน แต่ช่วงกิโลที่ 18 – 19 เราเริ่มรู้สึกว่าโฟมมีอาการยุบตัวตามแรงกด ซึ่งทำให้เท้าแอบเกร็งบ้างบางจังหวะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลตลอดช่วงท้ายนะ แต่คิดว่าถ้าวิ่งระยะมาราธอนอาจจะต้องการโฟมที่แน่นกว่านี้

รวมถึงเราหาความเด้งจากตัว Cloudecilpse แทบไม่เจอ ส่วนใหญ่จะออกไปทางนุ่มเฟิร์มมากกว่าเด้ง ดังนั้นใครคาดหวังว่ารองเท้าจะพุ่ง จะเร่งได้ดี คู่นี้อาจไม่ใช่คำตอบ!

On Cloudeclipse ราคา 7,400 บาท
ซื้อได้ที่นี่

If you like sneakers, we’re neighbors.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back To Top