รีวิว Skechers AERO Spark vs AERO Tempo รุ่นไหนดี

หลังจากได้ข่าวเปิดตัว Skechers ตระกูล AERO น้องใหม่ป้ายแดง ที่รีดีไซน์รองเท้าวิ่งใหม่หมดจด ภายใต้ชื่อ AERO ที่ย่อมาจาก Aerodynamic หรือหลักอากาศพลศาสตร์ ที่คนในวงการรถคุ้นเคยกันดี มันคือหลักการออกแบบที่คำนึงถึงการลู่ลม เพื่อไปให้ถึงความเร็วได้มากขึ้น เช่นเดียวกันเมื่อนำมาใช้ในวงการรองเท้าวิ่ง ก็น่าจะหมายถึงทำให้การวิ่งเข้าถึงความเร็วได้ไวขึ้นนั่นแหละ

Skechers AERO ออกแบบและพัฒนามาให้กับนักวิ่งระยะทางสั้น 4 นาทีที่ต้องการทำความเร็วแบบฉับพลัน ไปจนถึงนักวิ่งมาราธอนระยะไกลหลายชั่วโมง แบ่งการใช้งานออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ Skechers AERO Burst สำหรับสายรับแรงกระแทก Skechers AERO Spark ใช้งานทั่วไป และ Skechers AERO Tempo สำหรับทำความเร็ว แต่วันนี้เราได้ลองรองเท้า 2 รุ่นใหม่ (เขาเปิดตัว 3 รุ่นย่อยด้วย) คือ AERO Spark และ AERO Tempo

AERO Spark

Skechers AERO Spark™ รองเท้าวิ่งสาย Daily Trainer หรือเหมาะกับการใช้งานทั่วไป มาพร้อมโฟม Hyper Burst Ice ซึ่งเป็นโฟมสายซัพพอร์ต ที่เคยปรากฏในรุ่น Max Road 6 และ Ride 11 มาแล้ว แต่รอบนี้น่าจะปรับจูนโฟมใหม่ให้มีความนุ่มกำลังดี ได้ความเฟิร์มมากขึ้น และยังได้ความคล่องตัวไม่เบา ไม่เทอะทะเหมือนกับรุ่น AERO Burst รายละเอียดต่างๆ คล้ายกับคู่บน แต่หั่นโฟมออกไป น้ำหนักก็ไม่ได้เบามากนัก 283 กรัม (ไซส์ 9US)

AERO Tempo

Skechers AERO Tempo™ รองเท้าวิ่งสำหรับสายทำความเร็ว สมกับชื่อ Tempo จึงได้เปลี่ยนโฟมเป็น Hyper Burst ที่มีความแน่นมากกว่า Hyper Burst Ice คั่นกลางด้วยแผ่นเอชผสมคาร์บอนตลอดความยาวด้านใน และเสริมความนุ่มที่แผ่นรองเท้าด้านในทำจากวัสดุ Hyper Burst Pro โฟมตัวท๊อปที่มีความนุ่มมากกว่า จึงเหมาะเป็นรองเท้าสำหรับการซ้อมทำความเร็ว ซ้อม Tempo น่าจะสนุกเลย น้ำหนักก็เลยเบาขึ้น 244 กรัม (ไซส์ 9US)

ฟิลลิ่งหลังใช้งาน

แม้ว่าหน้าตาของ Skechers AERO Spark และ AERO Tempo จะดูซิ่งขึ้นก็ตาม แต่ต้องบอกว่าทั้งสองรุ่นไม่ใช่รองเท้าสำหรับแข่งนะ แต่ออกแบบมาเป็นรองเท้าซ้อม ที่เหมาะกับการใช้งานรูปแบบต่างๆ ซึ่งต้องบอกว่าเราค่อนข้างที่จะประทับใจ AERO Spark มากกว่าที่คิด กลายเป็นรองเท้าใช้งานทั่วไปแบบไม่ต้องคิดอะไร ทั้งๆ ที่น้ำหนักตัวเยอะทะลุ 280 กรัม แต่ว่าแทบไม่รู้สึกว่าน้ำหนักจะมีผลกับการวิ่งเลย

โฟม Hyper Burst Ice ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเลย เข้าใจว่ามีแผ่นที่เป็นคาร์บอนผสมมาช่วยเสริมความมั่นคง ทำให้ลงน้ำหนักได้เต็มเท้ามากขึ้น มีความโค้งนิดๆ กลิ้งๆ ไหลๆ หน่อย แต่โดยรวมคือวิ่งสนุกกำลังดี ไม่เร่งจนเกินไป โฟมนุ่มแต่ไม่ยวบ มีความเฟิร์มสไตล์โฟมฉีดไนโตรเจน ถ้าให้นึกภาพไวๆ ให้ความรู้สึกเหมือน Glycerin Max ที่หั่นโฟมออกครึ่งนึง จึงมีความคล่องตัว กระฉับกระเฉงกว่าเยอะ

ติดแค่เราลองวิ่งเกิน 10 กิโลขึ้นไปอาจมีอาการร้อนเท้ามาก เหมือนใต้เท้ามันมีความสั่นๆ สะเทือนจากโฟมอยู่หน่อย พอวิ่งไปนานๆ กลายเป็นรู้สึกเหมือนเท้าน่วมหน่อยๆ ทั้งนี้ก็เป็นอีกรุ่นนอกสายตาที่เราอยากแนะนำให้ไปลองกัน คิดว่าราคาค่าตัวรวมโปรโมชัน น่าจะไม่แรงเกินไปนัก

ตัดภาพมาที่พี่น้องสายทำความเร็วอย่าง Skechers AERO Tempo ที่สลัดภาพลักษณ์ความนิ่งจาก AERO Spark ไปเลย กลายเป็นสายซิ่งขึ้นมาตั้งแต่รูปทรงที่ดูปราดเปรียวขึ้น ทรงเรียวเหมือนกับรองเท้าทำความเร็ว ส้นเตี้ยจนแทบรู้สึกเหมือนจะจะหลุด หน้าผ้าบางขึ้นจนแทบโปร่ง น้ำหนักเลยลดไประดับ 240 กรัม แต่ได้ความเฟิร์มจากโฟม Hyper Burst Pro และ Hyper Burst มาเสริมความเร็วมากขึ้น เพราะหากต้องการความเร็วโฟมแน่นจะทำงานได้ดีกว่าโฟมนุ่ม และยังอุ่นใจด้วยแผ่นยาง Goodyear ที่โคตรจะทนทาน

แล้วทั้งสองรุ่นนี้เหมาะกับใคร AERO Spark เหมาะกับทุกคนจริงๆ รุ่นนี้ ทั้งมือใหม่เพิ่งเริ่มวิ่ง หรือคนวิ่งที่ต้องการรองเท้า easy หรือวันลองรัน ก็ใช้งานได้หมด ส่วน AERO Tempo เหมาะกับคนที่ต้องการองเท้าทำความเร็ว ใครหารองเท้าซ้อม Tempo หรือลงคอร์ต น่าจะตอบโจทย์เลยล่ะ ใครยังไม่เคยลองรองเท้าวิ่งจาก Skechers ตระกูล AERO รอบนี้ปรับมาไม่ธรรมดาเลย

Skechers AERO Spark ราคา 5,290 บาท
Skechers AERO Tempo ราคา 5,990 บาท
ซื้อได้ที่นี่