adidas Ultraboost 5X โฟมนุ่มขึ้น เบาขึ้น 30 กรัม ใส่วิ่งได้แล้ว

ห่างหายไปนานกับการรีวิว adidas Ultraboost หลังจากที่เราเคยมีความหวังในรุ่น Ultraboost Light แต่มันยังไม่ใช่เสียที การกลับมาคราวนี้ของ Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X ทำให้เราใจชื้นขึ้น ที่รู้ว่ามันกลับมาวิ่งได้จริงๆ แล้วนะ หลังจากความรู้สึกนั้นหายไปตั้งแต่ Ultraboost 20

ก่อนอื่นต้องพูดถึงตัวเลข 5 ก่อนว่าที่มายังไง 5 มาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 5 ของ adidas Ultraboost ซีรีส์รองเท้าวิ่ง (หรือใส่เดิน) ขายดีของแบรนด์ เริ่มต้นด้วยการโชว์เทคโนโลยี BOOST พลิกวงการรองเท้าวิ่งใน Ultraboost 1.0 ในปี 2015 ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เรื่อยมาจนถึง Ultraboost 4.0 จนได้มาเปลี่ยนครั้งใหญ่ใน Ultraboost 19

การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 ของ Ultraboost ถือว่าเป็นจุดเบ่งบานที่สุดก็ว่าได้ มีทั้ง Ultraboost 19 20 และ PB ต่อมาได้เปลี่ยนอีกครั้งในรุ่น Ultraboost 21 ซึ่งยาวไปจนถึง UB23 ก่อนที่จะมาเปลี่ยนครั้งที่ 4 ใน Ultraboost Light จนมาถึง Ultraboost 5 และ Ultraboost 5Xในปี 2024

adidas Ultraboost 5 มีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดาแบบมีเคสครอบ และรุ่นที่เราได้มารีวิวคือ Ultraboost 5X ที่แปะแถบ 3 แถมไว้บนหน้าผ้าเลย ข้อดีคือเท้าเราจะกลืนไปกับหน้าผ้า โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น และน้ำหนักเบาลงเล็กน้อยด้วย ตัวพื้นใช้โฟม Light Boost ที่ใช้มาตั้งแต่รุ่น Ultraboost Light แล้วแหละ ที่เริ่มเห็นว่าน้ำหนักลงมาต่ำกว่า 300 กรัมได้แล้ว (Ultraboost Light หนัก 298 กรัม) ซึ่งพอมาถึง Ultraboost 5X น้ำหนักเหลือเพียง 270 กรัม (ไซส์ 9US) เท่านั้น

พื้นด้านล่างก็ยังเน้นความทนทานด้วยการใส่แผ่นยาง Continental มาแต่ไม่เต็มแผ่น (ตรงจุดนี้น่าจะลดน้ำหนักไปในตัว) แค่ปลายเท้ากับส้นเท้าที่ลงน้ำหนักกันบ่อยๆ ตรงกลางจะเห็นเงาของแผ่น Torsion รูปตัว X ที่มาช่วยเสริมความมั่นคงของโฟม BOOST ยิ่งขึ้น ตรงกลางเลยเปลี่ยนไปใช้ยางธรรมดารองรับแทน

ส่วนฟิลลิ่งการใช้งาน เรารู้สึกว่ามันนุ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ Ultraboost Light นุ่มขึ้นมากๆ แต่ฟิลลิ่งโดยรวมก็ยังจัดอยู่ในรองเท้าเฟิร์มๆ ไม่ได้นุ่มมากขนาดนั้น จึงสามารถใส่ Ultraboost 5X ได้ทั้งเดินและวิ่ง ลองเดินทั้งวันมาแล้วไม่ติดอะไรเลย สบายเหมือนเดิม การใช้งานก็สบาย รู้สึกถึงการคืนพลังงานกลับชัดเจนตามสไตล์โฟม BOOST ตอบสนองได้ดี แต่วิ่งสัก 10 กิโลก็มีช้าลงไปบ้าง

โดยรวมถือเป็นคู่ใช้งานทั่วไปที่ตอบโจทย์เลย มีติดบางจุดเช่นหลังเท้าด้านบนยังรู้สึกต่ำๆ อยู่นิดหน่อย รองเท้า adidas มักทำทรงหลังเท้าต่ำ ทำให้เวลาใส่เดินนานๆ แอบมีอาการโดนกดเท้าบ้าง กลับอีกจุดที่เจอหลังเอาไปวิ่งซิตี้รันคือเสียดสีบริเวณจมูกเท้าด้านขวา เป็นไปได้ว่าพอโฟมคืนตัวช้าลงมันเลยเสียดสีง่ายขึ้น

เทียบกับรุ่นที่ลองมาช่วงเวลาใกล้กันอย่าง Pegasus 41 ที่ออกไปทางเฟิร์มเหมือนกันด้วย เรารู้สึกว่า Pegasus 41 ตอบสนองดีกว่าหน่อย แต่ Ultraboost 5X ได้ความกระชัน มั่นคงมากกว่า ใส่เดินสบายกว่า เสียดายที่รีวิวนี้มาไม่ทันตอนช่วงโปรโมชันหนักช่วงแรกๆ ไม่งั้นคงป้ายยาได้มันกว่านี้แน่

adidas Ultraboost 5 และ 5X ราคา 6,500 บาท

If you like sneakers, we’re neighbors.
Back To Top