หลังจากที่เราเคยรีวิว Asics METASPEED Sky Paris ไปเมื่อปลายปีก่อน และเป็นรองเท้าคาร์บอน 1 ใน 3 รุ่นที่เราชอบที่สุดในปี 2024 ด้วย มาวันนี้ขยับไปสู่ Asics METASPEED Sky Tokyo ที่ปรับโฟมมาใหม่ ฟิลลิ่งต่างไปจากเดิม แต่ยังคงคาแรกเตอร์วิ่งสนุกอยู่เต็ม 100%

Asics METASPEED Sky Tokyo เปิดตัวมาพร้อม METASPEED Edge Tokyo สำหรับรองเท้าคาร์บอนที่มีให้เลือกใช้ตามลักษณะท่าวิ่งของแต่ละคน Sky เป็นสายก้าวขายาวๆ Edge เป็นสายรอบขาจัด นอกจากนี้ยังมาพร้อม METASPEED Ray ที่เป็นรองเท้าวิ่งเบาสุดๆ เพียงแค่ 129 กรัม เท่านั้น ซึ่งจะวางขายตามมาภายหลัง
METASPEED Sky Tokyo มาพร้อมโฟมใหม่ FF Leap ที่ทำจากวัสดุ Aliphatic TPU และ FF Turbo+ จากวัสดุ Peba เดิม ทำให้ METASPEED Sky Tokyo เป็นรองเท้าคาร์บอนที่ใช้โฟม 2 ชนิดในคู่เดียวกันเป็นรุ่นแรกๆ ด้วย แต่สามารถทำน้ำหนักเบาลงกว่าเดิมลงไปที่ 164 กรัม (ไซส์ 9US) จากเดิม Sly Paris หนัก 180 กรัม และยังคงใช้ดรอป 5 มิล

ฟิลลิ่งหลังใช้
สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความนุ่มเด้งที่เพิ่มขึ้นจากโฟมใหม่ FF Leap แต่ต้องบอกว่าฟิลโดยรวมยังคงความเฟิร์มแน่นอยู่นะ แต่ก็ลดความแข็งลงจากรุ่น METASPEED Sky Paris มาได้พอสมควร แถมน้ำหนักยังเบาลงไปอีกเยอะ รู้สึกขาเบาหวิว แถมเด้งส่งรัวๆ รู้สึกว่าความเด้งมันเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนเยอะ Paris ยังต้องอาศัยการกดแรงไปที่โฟมเพื่อให้เด้งส่ง แต่ Tokyo แค่แตะเบาๆ ก็ได้ทั้งความนุ่มและความเด้งมาเต็ม

อีกจุดหนึ่งที่ประหลาดใจ รู้สึกว่าพอวิ่งช้าลงสักเพซ 7-8 กลับรู้สึกมั่นคงกว่าตัว Sky Paris ที่จะมีอาการโฟมปลิ้นๆ หน่อย แต่ตัว Sky Tokyo กลับลงได้เต็มเท้าขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะโฟม Aliphatic TPU ที่เพิ่มเข้ามาหรือไม่ ที่เราชอบอีกอย่างคือแผ่นยาง AsicsGrip ใต้พื้น ถึงแม้จะให้มาแค่ช่วงปลายเท้า แต่เราเอาไปสับในงาน brooo มาเมื่อวันก่อน วิ่งอัดเพซ 2-3 กันในลานจอดรถ วิ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วพื้นก็ยังเกาะอยู่ ประทับใจเลย
อีกอย่างคือแม้ว่า Sky Tokyo จะออกแบบมาสำหรับท่าวิ่งของคนก้าวขายาว แต่ส่วนตัวผมก็ไม่ได้วิ่งก้าวขาไกลขนาดนั้น ระยะอยู่ที่ประมาณ 0.8-1 เมตร แต่ METASPEED Sky Tokyo ทำให้ระยะขาพคงที่ที่ 1 เมตร ในความเร็วเพซ 5.20-5.30 ได้ยาวๆ รวมถึงรอบขาก็อยู่นิ่งๆ ที่ 180 รอบ ถือว่ารองเท้าก็ช่วยยกระดับการวิ่งของคนใส่ได้ในระดับ แม้จะทำให้การวิ่งของเราไม่ค่อยสบายนักก็ตามเถอะ

แล้วรุ่นไหนวิ่งสนุกกว่ากัน METASPEED Sky Paris และ Sky Tokyo ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน ไม่ได้เหมาะกับนักวิ่งใหม่เท่าไหร่ เพราะต้องคุมรองเท้าที่ค่อนข้างแรงให้อยู่หมัด แต่ความสนุกมันคือตรงนั้นแหละ ส่วนตัวเรากลับชอบและว้าวกับ Sky Paris มากกว่าหน่อย รู้สึกว่ามันไม่ได้นุ่มเด้งจนเกินไป ความเด้งมาจากการที่เราตะปบเท้าหนักๆ ยิ่งกดยิ่งมา เลยคุมขาได้ง่ายกว่า ในขณะที่ Sky Tokyo มันให้พลังและความแรงมาเลยแบบไม่ต้องง้อ พูดง่ายๆ ว่ารอบมันมาไวกว่า ไม่อยากซิ่งก็ต้องซิ่ง และยิ่งกดความแรงที่เพิ่มพูนจนแอบคุมยาก คือขาต้องแข็งจริงๆ หากจะวิ่งไกลๆ เกินระยะลองรัน แต่โดยรวมก็สนุกทั้งสองคู่เลย
ใส่ไซส์อะไรแน่
สุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องไซส์ ที่หลายคนถามว่าต้องใส่ไซส์อะไรดี ต้องบอกก่อนเราใส่ 9US (ไซส์รองเท้าวิ่งปกติของเรา) ทั้ง METASPEED Sky Paris และ Sky Tokyo แต่ก็ไม่ใช่ไซส์ที่ถูกต้องนัก ถ้าแนะนำให้เผื่อ 0.5 ไซส์จากปกติเป็น 9.5US จะสบายกว่า เพราะตอนนี้ Sky Paris ใส่ได้พอดี แต่วิ่งแล้วมีปลายชนหน่อย ส่วน Sky Tokyo รู้สึกความยาวรองเท้าจะสั้นกว่าเดิมอีก ทำให้ปลายเท้าชนกว่าเดิม แต่ไม่ถึงกับอึดอัดมาก น่าจะพอไหวระยะ 10-21KM แต่ฟูลมาราธอนไซส์นี้ไม่น่ารอด ยังไงก็ไปลองสวมกันก่อนได้นะ

Asics METASPEED Sky Tokyo ราคา 9,200 บาท