adidas adizero Boston 10 เปิดประเดิมคอลเลกชัน adizero 2021 ที่ตามมาด้วย adios Pro 2 และ adizero Prime X ที่ทำให้เราเห็นความชัดเจนและเอาจริงเอาจังกับรองเท้าวิ่งมากขึ้นนั่นคือ ‘Lightstrike Pro’ ที่จะกลายมาเป็นหัวใจสำคัญของ ‘รองเท้าวิ่งทำความเร็ว’ ของ adidas ต่อไปในอนาคต โดยไร้ซึ่งโฟม Boost อีกแล้ว ขอเริ่มต้นด้วย adidas adizero Boston 10 หลังจากได้ลองเอาไปวิ่งมาประมาณ 30 กิโล เราค้นพบอะไรในรองเท้าคู่นี้บ้าง
1. พื้นสูงแต่ยังติดดินเหมือนเดิม
หากใครเป็นแฟนบอยของรองเท้าตระกูล adizero ย่อมคุ้นเคยกับความรู้สึก ‘ติดดิน’ อันนี้เป็นอย่างดี พูดง่ายๆ คือมันเป็นความรู้สึกกระด้างที่เกิดขึ้นกับรองเท้าบางกรอบเหล่านั้น แต่ใช่ว่า adizero Boston 10 จะไม่เกิดขึ้น ถึงแม้จะอัดโฟม Lightstrike Pro เข้ามาช่วยเบรกความกระด้าง แต่เรายังรู้สึกว่าคาแรกเตอร์ของโฟม Lightstrike ยังชัดเจนอยู่
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2021/06/Boston-10-771x1024.jpg)
2. Carbon plate ทำงานได้ดีกว่า Energy Rods
หากดูจากภาพที่เปรียบเทียบรองเท้า 2 ข้าง ข้างนึงถอดแผ่นรองออกจะเห็นแผ่นสีดำใต้เท้าทันทีนั่นคือ ‘แผ่นคาร์บอน’ ที่ใส่มาให้ adizero Boston 10 หลังจากที่เราลองวิ่งไปสักระยะรู้สึกว่าการดีดเด้งบริเวณส้นเท้ามีมากกว่าปลายเท้า โดยเฉพาะเมื่อลงน้ำหนักที่ส้น ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกดี รองเท้าไม่ได้เร่งเราจนเกินไป แต่ช่วยยกเท้าไวจนไม่รู้สึกหนัก
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2021/06/Energy-Rods-2-771x1024.jpg)
3. หลายคนบอกคู่นี้หนักไป แต่เราว่าไม่!
น้ำหนัก 290 กรัมในไซซ์ 8.5 UK อาจฟังดูเหมือนหนักไปสำหรับใครหลายคน แต่อย่างที่บอกไปข้อก่อนหน้าว่า หน้าที่ของคาร์บอนที่มาช่วยยกเท้า ทำให้ความรู้สึก 290 กรัมนั้นไม่ได้รู้สึกว่าหนักหรือหน่วงขาจนเกินไป ประกอบกับคาแรกเตอร์ของโฟม Lightstrike ที่มีความ ‘แน่น’ และ ‘เฟิร์ม’ มากกว่าความ ‘นุ่ม’ ของโฟม Lightstrike Pro จึงทำให้ได้ที่เรียกว่า ‘หนัก’ ยังหาในระยะ 10 กิโลไม่พบ
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2021/06/Carbon-plate-1024x640.jpg)
4. เปรียบเทียบกับ adios Pro (รุ่นแรก)
ลองสลับใส่ระหว่าง adizero Boston 10 และ adizero adios Pro ดูแล้วคาแรกเตอร์ของรองเท้าทั้งสองคู่มีความคล้ายคลึงกันมากๆ ทั้งการใช้คาร์บอนที่ส้นเท้าและ Energy Rods เข้ามาช่วยประคับประครองโฟม แต่สิ่งที่ทำให้รองเท้า 2 คู่ต่างกันคือโฟมนี่แหละ adizero Boston 10 ได้ความรู้สึก ‘แน่น’ และ ‘เฟิร์ม’ จากโฟม Lightstrike ในขณะที่ adizero adios Pro ได้ความ ‘นุ่มแบบไม่ยวบ’ และ ‘เด้ง’ จาก โฟม Lightstrike Pro ล้วนๆ ก็แล้วแต่ว่าคุณเป็นสายไหน
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2021/06/S__9011233-1024x1024.jpg)
5. รองเท้าคู่นี้เหมาะกับใคร
หากพิจารณาจากหน้าที่เริ่มต้นแล้ว adizero Boston 10 จะเป็นรองเท้าวิ่งซ้อมสำหรับทำความเร็ว และน่าจะใช้ได้จนถึงระยะไกลเลยทีเดียว เพราะโฟมที่มีความแน่นพอสมควร ยังคงใช้ทำความเร็วได้ดีและไม่รู้สึกว่าเป็นภาระเท้ามากนัก มีความเมื่อยบ้างตอนใส่ยืนเฉยๆ รวมถึงส้นเท้าที่ดูเหมือนจะหลุดง่ายและก็ยังไม่หลุดให้เห็น ด้วยราคากับของที่อัดมาให้ในรองเท้าคู่นี้ถือว่า adizero Boston 10 เป็นรองเท้าที่คุ้มค่าใช้ได้เลย อ่อ ที่สำคัญสีสวยด้วยนะ
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2021/06/adizero-Boston-10-3-771x1024.jpg)
คุณสมบัติทั่วไปของ adizero Boston 10
– อัปเปอร์เป็นผ้าเมซชั้นเดียว
– พื้น Lightstrike Pro เสริมด้วยโฟม Lightstrike ชั้นล่าง
– Energy rods และคาร์บอน (เฉพาะส้นเท้า) อยู่ระหว่างโฟม
– น้ำหนัก 290 กรัม (ไซซ์ 8.5UK)
adidas adizero Boston 10 ราคา 4,800 บาท
วางจำหน่ายแล้วที่หน้าร้านและร้านค้าออนไลน์ของ adidas
Discover Quality Products with Our Product Reviews
Thanks for the post
Thanks for the post
Cool + for the post
Hey there I am so thrilled I found your blog,
I really found you by accident, while I was researching on Google for something else, Anyways
I am here now and would just like to say cheers for a marvelous
post and a all round exciting blog (I also love the theme/design), I don’t have time
to browse it all at the moment but I have bookmarked it and also
added your RSS feeds, so when I have time I will be back to read more, Please do keep up the excellent
work.