ชวนดู Hakone Ekiden เทศกาลวิ่งผลัดประจำปีของญี่ปุ่น

Hakone Ekiden series on netflix

เอคิเด็น (Ekiden) คืออะไร
เอคิเด็น (駅伝) มาจากภาษาคันจิสองคำผสมกันคือ เอะคิ (駅) แปลว่า สถานี และ เด็น (伝) แปลว่า การส่งต่อ พอนำมารวมกันแล้วถูกใช้แทนความหมายของการวิ่งผลัดระยะไกล ซึ่งน่าจะมีที่มาจากสมัยโบราณ ประเทศญี่ปุ่นยังมีถนนไม่กี่เส้น ระหว่างทางจากเอโดะ (หรือโตเกียวในปัจจุบัน) มายังเกียวโตจึงต้องมีจุดแวะพักให้เหล่านักเดินทาง จนเมื่อเริ่มมีการแข่งวิ่งผลัดระยะไกลขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1917 คำว่า ‘เอคิเด็น’ จึงถูกนำมาใช้ในโอกาสพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองให้กับการย้ายเมืองหลวงมายังโตเกียว แน่นอนว่าเส้นทางวิ่งคือเริ่มจากสะพานซันโจที่เกียวโตไปจนถึงสวนอุเอโนะในโตเกียว นับเป็นระยะทางกว่า 508 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นทั้งหมด 23 ช่วงด้วยกัน ซึ่งกว่าจะแข่งจบนั้นก็ปาเข้าไปสามวัน..วิ่งอะไรกันขนาดนั้น

เอคิเด็นเริ่มเป็นที่สนใจในหมู่คนญี่ปุ่น จึงเกิดเป็นการแข่งขันวิ่งผลัดย่อยๆ ขึ้นตามเมืองต่างๆ ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงบริษัทใหญ่ๆ มาแข่งขันกันจริงจัง บางคนไม่วิ่งก็มาช่วยประสานงานหรือเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือนักวิ่งกันไป และที่ได้รับความสนใจมากเพราะมักจะจัดขึ้นในช่วงต้นปีเสมอ โดยจะมีงานใหญ่ที่นักวิ่งอาจพอได้ยินชื่อผ่านหูมาบ้างคือ New Year Ekiden หรือการแข่งขันวิ่งผลัดระดับบริษัท จัดขึ้นในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี และ Hakone Ekiden หรือการแข่งขังวิ่งผลัดระดับมหาวิทยาลัย จัดขึ้นในวันที่ 2-3 มกราคมของทุกปี เรียกได้ว่าใครอยู่ละแวกนั้นพลอยได้หยุดงานมานั่งเชียร์กันยาวๆ เลยล่ะ

_______________________

เสน่ห์ของเอคิเด็น
แม้ว่าการวิ่งจะเป็นกีฬาที่แข่งกับตัวเอง แต่เสน่ห์ของเอคิเด็นคือคุณไม่ได้สู้อยู่คนเดียว ไม่ได้วิ่งเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่คุณกำลังแบกความมุ่งมั่นของคนทั้งทีมเอาไว้และต้องนำมันไปส่งที่เส้นชัยให้ได้ตามเป้าหมาย เราจะได้เห็นการวางแผนของคนเบื้องหน้าอย่างนักวิ่งที่ต้องมีสมาธิทุกย่างก้าว และคนเบื้องหลังตั้งแต่โค้ชไปจนถึงคนส่งน้ำที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม เนื่องจากระยะทางแต่ละช่วงไม่เท่ากัน สูงชันไม่เหมือนกัน การวางตัวนักวิ่งให้เหมาะสมกับเส้นทางแต่ละช่วงจึงเป็นภาระของหัวหน้าทีม ส่วนนักวิ่งเองก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม้จะวิ่งได้ไม่จบ เจ็บระหว่างทางหรือส่งผลัดไม่ทันก็ต้องร่วมทุกข์ไปด้วยกัน

หากใครเคยดูเอคิเด็นมาบ้างคงพอเห็นแล้วว่านักวิ่งแต่ละคนไม่ได้มาวิ่งกันสนุกๆ แต่เต็มไปด้วยความเอาจริงเอาจังและสปิริตของนักวิ่งแต่ละคน เพราะการแข่งวิ่งผลัดนี้เสมือนเป็นประตูบานแรกไปสู่การวิ่งระดับโลก นักวิ่งอีลิตของญี่ปุ่นหลายคนล้วนผ่านสนามของมหาลัยหรือบริษัทของตัวเองมาแล้วทั้งนั้น และยังรวมไปถึงใครที่มีฝีมือจัดจ้านเข้าตาสปอนเซอร์แบรนด์อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ยังมีโอกาสได้รับการสนับสนุนในอนาคตอีกด้วย จึงเรียกได้ว่างานนี้ใครมีเท่าไหร่ก็ใส่ให้หมด พอหมดหน้าที่ตัวเองแล้วเราจึงได้เห็นภาพคนล้มพับตรงจุดส่งผลัดจนชินตา เสมือนว่าสปิริตในตัวของเขาได้ถูกถ่ายทอดให้กับเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตารางรองเท้า Hakone-Ekiden

_______________________

เวทีแห่งการปล่อยของ
ตลอดเส้นทางหลายร้อยกิโลเมตรนอกจากภาพของนักวิ่งที่สับเปลี่ยนไปมาจนพอจำหน้านักวิ่งได้บ้างแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าที่นักวิ่งแต่ละคนใส่ เพราะสนามแห่งนี้เป็นเหมือนเวทีแห่งการปล่อยของ ถึงแม้ว่าหลักๆ แล้วจะหนีไม่พ้น Nike ที่ทุกคนใส่ Vaporfly NEXT% หรือ Alphafly Next% มาลงสนาม แต่ปีนี้มีม้ามืดอย่างอย่าง adidas adizero adios Pro เข้ามาแย่งซีน รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่ขอเข้ามาร่วมแจมสงครามคาร์บอนนี้ด้วย

ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้จึงเป็นโอกาสที่แต่ละแบรนด์ปล่อยซีรีส์พิเศษออกมาให้นักกีฬาและนักวิ่งสมัครเล่นเป็นเจ้าของกัน ตัวอย่างเช่น ซีรีส์ Ekiden pack ของ Nike ทางฝั่ง adidas ก็มีซีรีส์ Sunrise Bliss รวมถึง Mizuno เองก็ยังมาพร้อม Wave Duel Neo SP คู่สีแดง คงต้องมาลุ้นกันว่าปีนี้ใครจะได้แชมป์ไปครอง เขาว่ามหาวิทยาลัยโทโยมาแรงปีนี้ ส่วนมหาวิทยาลัยอาโอยามะ กักคุอิน จะรักษาแชมป์ 5 สมัยไว้ได้หรือไม่

_______________________

เอคิเด็นบนจอ
ความนิยมของการวิ่งผลัดระยะไกลโด่งดังจนต้องหยิบมาเล่าในรูปแบบอื่นๆ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Feel the Wind ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Shion Miura ต่อมาจึงนำไปเขียนเป็นการ์ตูนมังงะและอนิเมชันในปีถัดมา (สามารถหาดูได้ใน Netflix ชื่อเรื่อง Run with the Wind) ไปจนถึงภาพยนตร์เวอร์ชันคนแสดงในปี 2010 โดยในหนังเล่าถึงความประทับใจจากการวิ่ง Hakone Ekiden ที่ไม่ได้อาศัยเพียงความเร็วเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกไปด้วยมิตรภาพ ความเชื่อใจ พลังใจของทุกคนเข้าด้วยกัน ดังคำที่ตัวเอกของเรื่องพูดเอาไว้ว่า

“ความเร็วไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ นายมองแต่ข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่เพื่อน ๆ ทุกคนวิ่งอยู่ข้างหลังนายกันทั้งนั้น ถ้านายไม่หันกลับไปมอง ก็ไม่มีทางเห็นพวกเขาหรอก”

เช่นเดียวกับในโลกของความเป็นจริง ที่ความสนุกของการวิ่งไม่ได้มีแต่เรื่องความเร็วเท่านั้น ขอเพียงแค่หาให้เจอว่าคุณออกมาวิ่งเพื่ออะไร แล้วความสนุกที่ว่าจะตามมาเอง

ชมตัวอย่างการแข่งขัน Hakone Ekiden

If you like sneakers, we’re neighbors.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back To Top