Nike Pegasus 41 ตำนานม้าบิน รองเท้าวิ่งคู่แรกของผม

ในที่สุดตระกูลม้าบิน Pegasus 41 รุ่นใหม่ก็ขายเสียที หลังจากเราเห็นรองเท้ารุ่นนี้ตามโซเชียลมาสักพักใหญ่ รวมถึง Eliud Kipchoge ก็ใส่ซ้อม ใส่สัมภาษณ์บ่อยครั้ง Pegasus เป็นรองเท้าวิ่งที่อยู่มานานมากที่สุดก็ Nike ก็ว่าได้ ตัวเลข 41 การันตีความอายุยืนและการมีฐานแฟนที่ชอบรองเท้ารุ่นนี้พอสมควร อีกทั้งมันยังเป็นรองเท้าวิ่งรุ่นแรก (ได้รับมารีวิวรุ่นแรกๆ ของเพจ Neighborfoot) จึงทำให้เราผูกพันกับ Pegasus ค่อนข้างมา แม้รุ่นสุดท้ายที่ใช้ต้องย้อนกลับไป Pegasus 35 เลยก็ตาม

Nike Pegasus 41 วางขายในวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ก็ขายหมดในสีเขียวนีออนล้วน จนกระทั่งมาถึงคอลเลกชัน Blueprint Pack และ Electric Pack ต้อนรับ Paris Olympics 2024 ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นที่เป็น EasyOn หรือ FlyEase เดิม เป็นรุ่นที่ออกแบบสำหรับการสวมได้โดยไม่ต้องใส่มือ ซึ่งเราได้รับรุ่นนี้มาใส่รีวิวอีกครั้งนั่นเอง

Nike Pegasus 41 มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทั้งรูปทรงรองเท้า พื้นโฟมที่ปรับรูปให้คล้ายคลึงกับ Alphafly 3 มากขึ้น ส้นเท้าเหมือนถ้วย แต่ตัวโฟมยังใช้ Airzoom (ที่เคยใช้ตั้งแต่ Pegasus 35 ก็ยังอยู่) ผสานกับโฟม ReactX ที่รู้สึกว่าน้ำหนักเบาขึ้นชัดเจน แต่สำหรับรุ่นที่เป็น EasyOn จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นปกติเป็นธรรมดา เราชั่งได้ 293 กรัม (ไซส์ 9US) ก็ถือว่ามากดูพอ แต่วิ่งแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนักเกินไปนัก

ความพิเศษของรุ่น EasyOn คือสามารถสวมใส่ได้เลย แม้จะปรับมาแน่นพอดีแล้วก็ตาม เพราะบริเวณส้นเท้าเขาออกแบบมาให้สามารถใส่เหยียบส้นลงไปและสวมเข้าไปได้เลย (ไว้ทำคลิปสั้นให้ดูอีกทีนะ) ส่วนหน้าผ้าก็ใช้วิธีการรูดเชือกล็อกตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ หลังจากนี้ก็แทบไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีกเลย

วิธีการรูปให้สังเกตผ้าสีส้มๆ ให้เอานิ้วเกี่ยวแล้วดึงได้เลย เขาจะมีรูปแม่กุญแจล็อกกับไม่ล็อก เอาไว้แสดงด้านที่ต้องการดึงเชือกให้แน่น และด้านที่ต้องการดึงให้เชือกคลายนั่นเอง เห็นไหมว่าวิธีการมันง่ายมากๆ จริงๆ เราชอบคอนเซ็ปต์ของ EasyOn มากๆ มันออกแบบมาโดยวิธีคิดถึงคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬา ไม่ได้มีอวัยวะครบทุกส่วน แต่ทุกคนสามารถเป็นนักวิ่งได้ เหมือนคำที่ Nike ชอบใช้ว่า Athlete ที่แปลว่านักกีฬา นั่นแหละ

นอกจากนี้ Nike Pegasus 41 ยังออกแบบมาให้ลดการผลิตคาร์บอนลงได้มากกว่า 43% เผื่อใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลายๆ รุ่นก็มีการใช้โฟมรีไซเคิลด้านใน เพื่อเน้นย้ำเรื่องความยั่งยืน ด้านล่างก็เป็นแผ่นยางเกือบเต็มเท้าเลย

เรื่องการใช้งานฟิลลิ่งแรกที่รู้สึกได้ หลังจากไม่ได้ใช้รุ่นนี้มา 5-6 ปีคือความเบา (รุ่นเชือกปกติจะเบากว่านี้) รู้สึกว่า Pegasus คล่องตัวขึ้นเยอะเลยแหะ และยังคงได้ความนุ่มมากขึ้นจากโฟม React เดิมที่ออกไปทางเฟิร์มๆ แน่นๆ ทั้งยังตอบสนองดีด้วย แม้จะไม่ได้วิ่งปรู้ดปร๊าด แต่ก็เป็นรองเท้าใช้งานระดับกลางๆ ที่ครบเครื่อง ใส่วิ่งได้ทุกระยะ มั่นใจเรื่องการซัพพอร์ตและความมั่นคง

ส่วนรุ่น EasyOn เรารู้สึกว่าหน้าผ้าจะกระชับกว่ารุ่นเชือกปกตินิดหน่อย แต่ใส่ไซส์เดียวกันได้ ตรงไซส์เลย เราว่าข้อดีคือความหลากหลายในการใช้งาน เราหยิบ Pegasus 41 EasyOn ไปทริปที่เมืองจีนมา 3 วัน ใส่วิ่งใส่เดินคู่เดียวจบ วิ่งทั่วไป เพซ 6-7 กำลังสบาย ใส่เดินวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 ก้าว โฟมแน่นๆ เฟิร์ม ช่วยซัพพอร์ตเท่าได้เลย ไม่เมื่อยสักนิด แถมยังสวมและถอดง่ายเวลาเข้าสถานที่ต่างๆ คล่องตัวมากๆ เป็นอีกรุ่นที่แม้จะไม่ค่อยพูดถึง แต่เรื่องการใช้งาน และอายุที่ยาวนานกว่า 41 ปี การันตีความคุ้มค่าได้แน่นอน ส่วนถ้าใครอยากได้รุ่นเบาลงก็เลือกเชือกปกติแล้วกัน

Nike Pegasus 41 ราคา 5,200 บาท
ซื้อได้ที่นี่

If you like sneakers, we’re neighbors.
Back To Top