เราเคยเอาภาพคู่จริงของ Mizuno Wave Rebellion Pro 2 และ Rebellion Flash 2 มาให้ชมกันไปแล้ว แต่รอบนี้มีโอกาสได้นำไปวิ่งจริงสักที แถมยังเป็นคู่แรกประจำปี 2024 อีกด้วย (จริงๆ คู่แรกของปีมีอีกคู่ สั่งไปแล้วแต่ยังไม่มา) หลายคนเห็นสะดุดกับรูปทรงแปลกๆ และทิศทางการพัฒนารองเท้าที่ไม่เหมือนแบรนด์ไหนมาก่อนแล้ว เราจะมาเล่าให้ฟังว่าเจออะไรบ้างในรองเท้าคู่นี้
ไซส์
สิ่งแรกที่คนถามกันคือ Mizuno Wave Rebellion Pro 2 ใส่ไซส์ไหน ต้องเพิ่มไซส์ไหม แล้วจะเพิ่ม 0.5-1 ไซส์ดี ต้องบอกก่อนว่าเราไม่มีสิทธิเลือก เพราะมันเลือกไซส์เดียวคือ 10US และถือว่าเพิ่มกว่ารองเท้าวิ่งที่เราใส่ปกติถึง 1 ไซส์ (ทุกคู่ใส่ 9US หมด) แต่ปรากฏว่ามันก็ไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้น ข้างนึงเราเหลือพื้นที่ประมาณนิ้วโป้ง อีกข้างเหลือครึ่งนิ้วโป้ง ซึ่งเราว่าเพิ่ม 0.5 ไซส์ก็น่าจะกำลังดีนะ อีกเรื่องที่น่าประทับใจคือน้ำหนักเพราะอยู่ที่ 237 กรัม (ไซส์ 10US) นี่ขนาดเพิ่มมา 1 ไซส์ ยังหนักแค่ไหน โอ้แม่เจ้า
หน้าผ้า
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2024/01/Rebellion-Pro-2-upper-1024x640.jpg)
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองสัมผัส Rebellion Pro 2 หลังจากรอบล่าสุดเราได้วิ่งกับ Rebellion Pro มาสักหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าฟิลลิ่งที่ได้ กลับไม่ได้รู้สึกให้ย้อนกลับไปนึกถึงคู่เก่าแม้แต่น้อย มันพัฒนาไปอีกทางแบบสุดโต่งจริงๆ แต่ก่อนจะไปว่าเรื่องนั้น ขอพูดถึงหน้าผ้าที่ค่อนข้างใส่สบาย และแอบดูบางกว่าปกติ โดยเฉพาะดีไซน์ขีดๆ บนหน้าผ้า (เหมือนโดนมีดกรีดมาไม่รู้กี่แผล) กลัวว่าถ้าใช้งานยาวๆ อาจจะขาดได้ เพราะแค่ตอนนี้มันก็ดูเหมือนขาดอยู่แล้วนะ
โฟม
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2024/01/Rebellion-Pro-2-foam-1024x640.jpg)
มุมมองด้านข้างน่าจะอธิบายฟิลลิ่งของโฟม Mizuno Enerzy Lite ที่ค่อนข้างนุ่มมากได้เป็นอย่างดี รู้สึกจะนุ่มกว่ารุ่น Rebellion Pro เล็กน้อย ผสานกับเทคโนโลยี Smooth Speed Assist ที่สานต่อรูปทรงส้นหลายจากรุ่นแรก ทำให้รองเท้าพยายามที่จะผลักเราไปข้างหน้ามากขึ้น เพราะไม่มีส้นเท้าให้แอบพักอีกแล้ว
ความมั่นคง
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2024/01/Rebellion-Pro-2-heel-1024x640.jpg)
สิ่งที่หลายคนอาจกังวลใจคือเรื่องความมั่นคง เนื่องจากผู้ใช้ Rebellion Pro ยังอาจหลอนกับอาการเท้าล้มในที่มาจากตัวโฟม ทำให้ Rebellion Pro 2 แก้ปัญหาจากรุ่นก่อน โดยการเชื่อมโฟมยาวต่อกัน แต่ใช้การเจาะร่องตรงกลาง (ที่ค่อนข้างใหญ่) เผยให้เห็นแผ่นคาร์บอนตลอดทั้งใต้ฝ่าเท้า นอกจากนี้มันยังโค้งในลักษณะเหมือน S Curve อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามองจากส่วนปลายเท้าบนพื้นสามารถมองทะลุไปถึงฝั่งปลายเท้าได้เลย แล้วมันมั่นคงหรือไม่ ต้องบอกว่าแม้ตัวโฟมจะพูดไม่น่าจะมั่นคงเท่าไหร่ แต่พอถึงเวลาวิ่งจริงโฟมมันไม่ปลิ้นไปมาแบบที่ทุกคนคิด สามารถลงน้ำหนักปลายเท้ากลางเท้าได้เลย
ฟิลลิ่งหลังการวิ่ง
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2024/01/Rebellion-Pro-2-outsole-1024x640.jpg)
เรื่องที่สำคัญที่สุดที่หลายคนอยากรู้กันคือความรู้สึกเป็นอย่างไร ต้องบอกอย่างนึงว่า มันทำให้เรานึกถึง SC Elite v3 ใจแง่ของความมั่นคงของโฟม หากใครยังจำกันได้เรายกให้ SC Elite v3 เป็น Running shoe of 2023 เพราะความสบาย แต่สำหรับ Rebellion Pro 2 ถึงแม้จะไม่ได้เน้นย้ำถึงความสบาย แต่สิ่งจะได้ชัดๆ คือความพุ่งของรองเท้าที่ค่อนข้างชัดเจน คนละความรู้สึกกับ Rebellion Pro รุ่นแรกที่ออกไปทางกลิ้งๆ ไหลๆ
Rebellion Pro 2 เป็นรองเท้าที่พยายามผลักให้ไปข้างหน้าตลอดเวลา และจะไม่ให้สิทธิคุณพักที่ส้นเท้าเด็ดขาด โฟมจะยิ่งออกอาการมากขึ้น เมื่อกดเพซให้ต่ำลง เราลองวิ่งย่านความเร็วเพซ 5 สนุกกว่าเพซ 6-7 ชัดเจน ซึ่งหลังจากวิ่งไปสัก 10 ก็อาจเริ่มเจออาการเมื่อยบ้าง เพราะคุณต้องใช้กล้ามเนื้อมัดน่องในตอนลงน้ำหนักปลายเท้าตลอดเวลานั่นเอง
Mizuno Wave Rebellion Pro 2 ราคา 7,000 บาท