หลังจากเราได้ลองตระกูล SKECHERS Speed Freek ต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก และติดตามความเคลื่อนไหวของตระกูลนี้มาตลอด จนกระทั่งความเคลื่อนไหวของโฟมใหม่ Hyper Burst Pro (ที่ไม่ได้นุ่มอย่างที่คิด) ใน Razor 4 ก็น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรในรุ่นท็อป Speed Beast และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ คู่นี้เป็นคู่ที่ทำให้เราประทับใจเหมือนกับตอนได้ลอง Speed Freek (ที่ต้องผิดหวังกับ Razor Excess 2 มาก่อนเหมือนกัน) มีจุดไหนที่เราชอบบ้างไปฟังกันเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราได้ Skechers Speed Beast ในไซซ์ของผู้หญิงมา ปกติเราใส่ไซซ์ 9US ผู้ชาย แต่ไซซ์ดันหมด พอไปลองไซซ์ 9.5US ก็รู้สึกว่าหลวมเกินไป เพราะรุ่นนี้เราทำหน้าเท้าให้กว้างกว่าปกติ จึงลองไปใส่ไซซ์ 10US ของผู้หญิง (ที่ไซซ์ตรงกับ 9US ของผู้ชายแทน แต่หน้าเท้าแคบกว่า) ปรากฏใส่ได้พอดี ข้างเท้าไม่บีบเลย ส่วนความยาวปลายเท้าก็พอดีเหลือที่นิดหน่อย
Speed Beast ยังคงใช้ผ้าโมโนเมซ 2 ชั้น คล้ายๆ กับรุ่น Razor 4 แต่มีความบางกว่านิดหน่อย สกรีนคำว่า Speed ตามชื่อตระกูลนี้ หน้าผ้าก็ระบายอากาศได้ดีในระดับนึง สิ่งที่ต่างออกไปคือการใช้โฟมใหม่ Hyper Burst Pro ที่สร้างขึ้นโดยกระบวนการที่เรียกว่า “Super Critical” หรือการฉีดอัดโฟมชั้นกลางเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและน้ำหนักที่เบา ฟิลลิ่งของโฟมแทบไม่ต่างจากรุ่น Razor 4 เลย คือความแน่นล้วนๆ ไม่มีนุ่มผสม แต่มีข้อดีคือพอโฟมแน่นมากๆ เวลากดน้ำหนักลงไปนิดหน่อย ทำให้โฟมคืนตัวกลับได้ไว กลายเป็นโฟมที่ตอบสนองดีขึ้นมาทันที
เมื่อโฟม Hyper Burst Pro มันตอบสนองได้ไวขนาดนี้ จึงยิ่งทำงานได้ดีกับแผ่นคาร์บอนผสมไนลอนรูปตัว H หรือปีกนก ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงบริเวณขอบด้านนอกเท้า และช่วยตอบสนองการวิ่งได้ดี ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแผ่นคาร์บอนของ Skechers ไม่ได้ช่วยในเรื่องการดีดเด้งเหมือนพวกแผ่นคาร์บอนเต็มแผ่นในค่ายอื่นๆ แต่คาร์บอนของ Skechers กลับมาช่วยในเรื่องการไหล ทำให้รองเท้ากลิ้งไปได้เรื่อยๆ ยิ่งวิ่งยิ่งรอบขามา
นอกจากนี้ Speed Beast ยังมีเทคโนโลยี ARCHFIT หรือแผ่นซอฟต์ที่ช่วยเสริมอุ้งเท้า และกึ่งบังคับให้เราลงน้ำหนักปลายเท้ามากขึ้น และปิดท้ายด้วยแผ่นยาง Goodyear ที่ทนทานเช่นเดิม ซึ่งก็ถือว่า Speed Beast ให้แผ่นยางมาค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับหลายๆ ค่าย นี่อาจเป็นเหตุผลให้น้ำหนักของรองเท้ารุ่นนี้ไม่ได้เบาเหมือนค่ายอื่น อย่างเราชั่งได้ 250 กรัม (ไซซ์ 10US ของผู้หญิง) ในขณะที่รองเท้ารุ่นท็อปของค่ายอื่นมักจะอยู่ที่ประมาณ 200 – 220 กรัมเสียส่วนใหญ่
ข้อสังเกตอย่างนึงคือตำแหน่งกึ่งกลางของรองเท้าคู่นี้อยู่เกือบจะกึ่งกลางรองเท้าพอดี (ลองเลื่อนขึ้นไปดูภาพปกนะครับ) นั่นหมายความว่าพื้นที่ที่จะทำให้รองเท้าพาเรากลิ้งไปข้างหน้าได้มีตั้งแต่ช่วงกลางเท้าถึงปลายเท้าเลยทีเดียว พูดง่ายๆ ว่ารองเท้าพาเรากลิ้งได้ง่ายขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Hyper Arc หรือความโค้งของตัวรองเท้า ทั้งปลายเท้าและส้นเท้าที่ยกขึ้นกว่าปกติ จึงทำให้ Geometric ของรองเท้าคู่นี้กลิ้งได้สนุกสมใจ อารมณ์แบบ Carbon X ยุคแรกๆ เลย ใครชอบสไตล์รองเท้ากลิ้งแบบนี้แนะนำให้จัดมาใส่ เพราะโปรเขาเล่นใหญ่ตั้งแต่ขายวันแรกเลย
Skechers Speed Beast ราคา 6,990 บาท
หน้าร้านมีโปรลด 20% หรือช็อปออนไลน์ที่นี่
ส่วน Supersports ลดราคาเหลือ 5,492 บาท ซื้อได้ที่นี่