เราเคยพูดถึง Unpause กันไปแล้ว ในฐานะรองเท้าคาร์บอนฝีมือคนไทย จนทาง Unpause ส่งคู่จริงมาให้เราได้ลองสัมผัสฟิลลิ่งรองเท้าคู่จริง ต้องบอกว่าใช้งานครั้งแรกก็ประทับใจ เป็นฟิลลิ่งที่ไม่ค่อยคุ้ยเคยเท่าไหร่ มีอะไรขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่วิ่งสนุกใช้ได้เลย เราไปว่ากันทีละเรื่องดีกว่า
ก่อนอื่นชื่อของ Halley เผื่อใครยังไม่รู้ว่ามาจากชื่อของดาวหางฮัลเลย์นั่นเอง ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Project H ในการพัฒนารองเท้าสำหรับใส่ซ้อมและแข่งในคู่เดียวกัน นอกจากตัว Halley แล้วยังมี Halley Elite ที่เป็นรองเท้าแข่งเต็มตัว ซึ่งน่าจะออกตามมาภายหลัง
หน้าผ้า
Unpause Halley ใช้วัสดุหน้าผ้า TPU mono mesh ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยมาใน Nike Vaporfly รุ่นแรก หรือ HOKA Rocket X 2 นั่นเอง ตัวหน้าผ้าจะไม่ได้ยืดขยายมากนัก เรื่องสำคัญคือรูปทรงของตัวรองเท้าค่อนข้างจะเรียวเอามากๆ ใส่ครั้งแรกให้ความรู้สึกเดียวกับ HOKA Rocket X 2 เลย คือเป็นรองเท้าทรงเรียวยาว ผมใส่ไซซ์ 9US ตรงไซซ์กับรองเท้ารุ่นอื่นๆ (เป็นคนเท้าปกติ) แต่หน้าผ้าค่อนข้างชิดบริเวณข้างเท้าแบบพอดีเลย แต่ไม่ได้รู้สึกเสียดสีจนต้องขยับไซซ์นะ
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2023/08/Unpause-Halley-upper-web-1024x683.jpg)
อีกเรื่องที่มีลักษณะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คือความหน้าเชิ่ดของตัวรองเท้า ที่มีความโค้งทั้งปลายเท้าและส้นเท้าค่อนข้างมาก ใส่แล้วรู้สึกโยกไปข้างหน้า ปลายงอนเหมือนพวกรองเท้าอาหรับเลย เป็นฟิลลิ่งที่แปลกดี บริเวณส้นเท้ามีการใส่แผ่นพลาสติกมาช่วยล็อกข้อเท้าด้วย ซึ่งใช้งานจริงไม่ค่อยรู้สึก แอบรู้สึกเหมือนส้นจะหลุดด้วย แต่ไม่หลุดนะ
จุดที่ขัดๆ ก็มีตรงเชือกรองเท้า เพราะว่าร้อยค่อนข้างยาก แต่ตัวเชือกค่อนข้างล้อกหน้าผ้าได้ดีเลย (แนะนำคนที่ซื้อมาใหม่ ถอดมาร้อยใหม่ให้เข้ากับเท้าตัวเองตั้งแต่แรกไปเลยจะดีที่สุด) และควรจะร้อยเชือกล็อกข้อเท้าด้วยรูในสุดด้วย สำหรับใครที่ชอบล็อกข้อเท้าแน่นๆ นะ ส่วนผมชอบหลวมๆ เลยร้อยปกติตามรูปเลย
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2023/08/Unpause-Halley-heel-web-1024x683.jpg)
โฟม
มีการสกรีนที่โฟมว่า Solar Storm E เป็นโฟมขึ้นรูปจากวัสดุ Peba (ข้างบน) ซึ่งช่วยส่งแรงได้ดี และวัสดุ EVA (ข้างล่าง) ที่เน้นการซัพพอร์ต คั่นกลางแผ่นคาร์บอนเต็มแผ่น รูปร่างแบบ S curve ฟิลลิ่งหลังสวมใส่คือโฟมแข็งมาก รู้สึกเป็นก้อนโฟมอยู่ใต้เท้า ไม่นุ่มแต่ส่งแรงดี ไม่ถึงขนาดเด้งมาก พื้นที่ใต้เท้าให้ความรู้สึกเหมือนกับใส่ Vaporfly แต่ความหนาแน่นโฟมนึกถึงตระกูล Endorphin ที่มีความแข็งแบบกระด้างๆ กว่า ออกไปทางโฟม Hyper Burst ของ Skechers ซึ่งต้องใช้เวลารันอินก่อนที่ความนุ่มจะเผยตัวออกมา
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2023/08/Unpause-Halley-foam-web-1024x683.jpg)
ฟิลลิ่งหลังวิ่ง
เราลองใส่วิ่งประมาณ 15 กิโล พบว่าโฟม Solar Storm E ยุบตัวขึ้นเล็กน้อย ความนุ่มเริ่มปรากฏ ลงปลายเท้าก็วิ่งได้สบายขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่พักมาลงส้นจะรู้สึกถึงความแข็งจากแผ่นยาง 2 ชิ้นที่ส้นเท้าทันที รู้สึกเหมือนใต้เท้าจะมีก้อนโฟม 3 ส่วน คือ ปลายเท้า และส้นเท้าทั้งสองข้าง เป็นฟิลลิ่งที่แปลกดี และหน้าผ้าที่ตอนสวมเหมือนจะบีบข้าง พอวิ่งจริงกลับไม่รู้สึก แถมล็อกเท้าด้านข้างได้ดีด้วย
ใต้พื้นโฟม Solar Storm E จะมีการเจาะร่องเล็กๆ ตรงกลางเท้า ซึ่งแม้พื้นที่ใต้เท้าจะรู้สึกว่าเรียว แต่กลับไม่รู้สึกถึงความไม่มั่นคงเลย ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่วิ่งได้เพลินๆ หลังจากรองเท้ารันอินแล้วก็วิ่งได้สนุกขึ้น เน้นลงที่ปลายเท้าจะฟินกว่า แต่ยังไม่รู้สึกถึงขนาดว่าปลายเท้าที่โค้งจัดๆ จะมาช่วยกลิ้งได้ดีขึ้นขนาดนั้น
![](https://neighborfoot.com/wp-content/uploads/2023/08/Unpause-Halley-outsole-web-1024x683.jpg)
แต่ข้อสังเกตอย่างนึงคือ พอวิ่งไปเกิน 10 กิโล ตัวโฟมกับเท้าเหมือนจะไม่ได้ไปด้วยกัน ทำให้เกิดอาการเหมือน แรงสะเทือนจากพื้นสู่โฟมมาปะทะตรงๆ กับนิ้วเท้า ซึ่งให้ความรู้สึกสะท้านพอตัว แต่ผมเจออาการนี้แค่ข้างซ้าย เลยคิดว่าอาจจะเป็นที่ท่าวิ่งของผมเอง อีกอย่างตัวรองเท้าน้ำหนักประมาณ 250 กรัม (ไซซ์ 9US) แต่ค่อนข้างจะอมน้ำจากตัวผ้าและลิ้นรองเท้า ลองเอามาชั่งหลังวิ่งกลายเป็น 275 กรัม ทันที และสุดท้ายอย่าใส่ถุงเท้าสีขาวเชียว เพราะรองเท้าสีตก จากถุงเท้าขาวๆ จะกลายเป็นถุงเท้ามัดย้อมไปในทันที
Unpause Halley ใช้ดรอป 8 มิลที่คุ้นเคย (ปลายเท้า 31 มิล ส้นเท้า 39 มิล) ตัวซีรีส์ Halley มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน สีนี้คือ Emberglow ออกโทนส้มแดง Mango Tonic โทนเขียวสะท้อนแสง และสี Radial Comet ในโทนดำ
Unpause Halley ราคา 4,690 บาท