Unpause Halley ดาวหางพื้นเรียว โฟมแข็ง แรงส่งดี

เราเคยพูดถึง Unpause กันไปแล้ว ในฐานะรองเท้าคาร์บอนฝีมือคนไทย จนทาง Unpause ส่งคู่จริงมาให้เราได้ลองสัมผัสฟิลลิ่งรองเท้าคู่จริง ต้องบอกว่าใช้งานครั้งแรกก็ประทับใจ เป็นฟิลลิ่งที่ไม่ค่อยคุ้ยเคยเท่าไหร่ มีอะไรขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่วิ่งสนุกใช้ได้เลย เราไปว่ากันทีละเรื่องดีกว่า

ก่อนอื่นชื่อของ Halley เผื่อใครยังไม่รู้ว่ามาจากชื่อของดาวหางฮัลเลย์นั่นเอง  ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Project H ในการพัฒนารองเท้าสำหรับใส่ซ้อมและแข่งในคู่เดียวกัน นอกจากตัว Halley แล้วยังมี Halley Elite ที่เป็นรองเท้าแข่งเต็มตัว ซึ่งน่าจะออกตามมาภายหลัง

หน้าผ้า

Unpause Halley ใช้วัสดุหน้าผ้า TPU mono mesh ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยมาใน Nike Vaporfly รุ่นแรก หรือ HOKA Rocket X 2 นั่นเอง ตัวหน้าผ้าจะไม่ได้ยืดขยายมากนัก เรื่องสำคัญคือรูปทรงของตัวรองเท้าค่อนข้างจะเรียวเอามากๆ ใส่ครั้งแรกให้ความรู้สึกเดียวกับ HOKA Rocket X 2 เลย คือเป็นรองเท้าทรงเรียวยาว ผมใส่ไซซ์ 9US ตรงไซซ์กับรองเท้ารุ่นอื่นๆ (เป็นคนเท้าปกติ) แต่หน้าผ้าค่อนข้างชิดบริเวณข้างเท้าแบบพอดีเลย แต่ไม่ได้รู้สึกเสียดสีจนต้องขยับไซซ์นะ

ปลายเท้ามีซัพพอร์ตด้วยพลาสติก และเจาะรูระบายอากาศ

อีกเรื่องที่มีลักษณะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คือความหน้าเชิ่ดของตัวรองเท้า ที่มีความโค้งทั้งปลายเท้าและส้นเท้าค่อนข้างมาก ใส่แล้วรู้สึกโยกไปข้างหน้า ปลายงอนเหมือนพวกรองเท้าอาหรับเลย เป็นฟิลลิ่งที่แปลกดี บริเวณส้นเท้ามีการใส่แผ่นพลาสติกมาช่วยล็อกข้อเท้าด้วย ซึ่งใช้งานจริงไม่ค่อยรู้สึก แอบรู้สึกเหมือนส้นจะหลุดด้วย แต่ไม่หลุดนะ

จุดที่ขัดๆ ก็มีตรงเชือกรองเท้า เพราะว่าร้อยค่อนข้างยาก แต่ตัวเชือกค่อนข้างล้อกหน้าผ้าได้ดีเลย (แนะนำคนที่ซื้อมาใหม่ ถอดมาร้อยใหม่ให้เข้ากับเท้าตัวเองตั้งแต่แรกไปเลยจะดีที่สุด) และควรจะร้อยเชือกล็อกข้อเท้าด้วยรูในสุดด้วย สำหรับใครที่ชอบล็อกข้อเท้าแน่นๆ นะ ส่วนผมชอบหลวมๆ เลยร้อยปกติตามรูปเลย

เชือกของ Unpause Halley ยึดหน้าผ้าดี แต่ร้อยลำบากมาก

โฟม

มีการสกรีนที่โฟมว่า Solar Storm E เป็นโฟมขึ้นรูปจากวัสดุ Peba (ข้างบน) ซึ่งช่วยส่งแรงได้ดี และวัสดุ EVA (ข้างล่าง) ที่เน้นการซัพพอร์ต คั่นกลางแผ่นคาร์บอนเต็มแผ่น รูปร่างแบบ S curve ฟิลลิ่งหลังสวมใส่คือโฟมแข็งมาก รู้สึกเป็นก้อนโฟมอยู่ใต้เท้า ไม่นุ่มแต่ส่งแรงดี ไม่ถึงขนาดเด้งมาก พื้นที่ใต้เท้าให้ความรู้สึกเหมือนกับใส่ Vaporfly แต่ความหนาแน่นโฟมนึกถึงตระกูล Endorphin ที่มีความแข็งแบบกระด้างๆ กว่า ออกไปทางโฟม Hyper Burst ของ Skechers ซึ่งต้องใช้เวลารันอินก่อนที่ความนุ่มจะเผยตัวออกมา

โฟม Solar Storm E เป็นโฟม EVA ผสมกับ PEBA ด้านบน ฟิลลิ่งแข็งๆ แต่วิ่งไปก็นุ่มขึ้น

ฟิลลิ่งหลังวิ่ง

เราลองใส่วิ่งประมาณ 15 กิโล พบว่าโฟม Solar Storm E ยุบตัวขึ้นเล็กน้อย ความนุ่มเริ่มปรากฏ ลงปลายเท้าก็วิ่งได้สบายขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่พักมาลงส้นจะรู้สึกถึงความแข็งจากแผ่นยาง 2 ชิ้นที่ส้นเท้าทันที รู้สึกเหมือนใต้เท้าจะมีก้อนโฟม 3 ส่วน คือ ปลายเท้า และส้นเท้าทั้งสองข้าง เป็นฟิลลิ่งที่แปลกดี และหน้าผ้าที่ตอนสวมเหมือนจะบีบข้าง พอวิ่งจริงกลับไม่รู้สึก แถมล็อกเท้าด้านข้างได้ดีด้วย

ใต้พื้นโฟม Solar Storm E จะมีการเจาะร่องเล็กๆ ตรงกลางเท้า ซึ่งแม้พื้นที่ใต้เท้าจะรู้สึกว่าเรียว แต่กลับไม่รู้สึกถึงความไม่มั่นคงเลย ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่วิ่งได้เพลินๆ หลังจากรองเท้ารันอินแล้วก็วิ่งได้สนุกขึ้น เน้นลงที่ปลายเท้าจะฟินกว่า แต่ยังไม่รู้สึกถึงขนาดว่าปลายเท้าที่โค้งจัดๆ จะมาช่วยกลิ้งได้ดีขึ้นขนาดนั้น

ใต้พื้นเจาะร่องกลาง ไม่รู้สึกว่าไม่มั่นคงนะ น่าจะมาช่วยเรื่องส่งแรง

แต่ข้อสังเกตอย่างนึงคือ พอวิ่งไปเกิน 10 กิโล ตัวโฟมกับเท้าเหมือนจะไม่ได้ไปด้วยกัน ทำให้เกิดอาการเหมือน แรงสะเทือนจากพื้นสู่โฟมมาปะทะตรงๆ กับนิ้วเท้า ซึ่งให้ความรู้สึกสะท้านพอตัว แต่ผมเจออาการนี้แค่ข้างซ้าย เลยคิดว่าอาจจะเป็นที่ท่าวิ่งของผมเอง อีกอย่างตัวรองเท้าน้ำหนักประมาณ 250 กรัม (ไซซ์ 9US) แต่ค่อนข้างจะอมน้ำจากตัวผ้าและลิ้นรองเท้า ลองเอามาชั่งหลังวิ่งกลายเป็น 275 กรัม ทันที และสุดท้ายอย่าใส่ถุงเท้าสีขาวเชียว เพราะรองเท้าสีตก จากถุงเท้าขาวๆ จะกลายเป็นถุงเท้ามัดย้อมไปในทันที

Unpause Halley ใช้ดรอป 8 มิลที่คุ้นเคย (ปลายเท้า 31 มิล ส้นเท้า 39 มิล) ตัวซีรีส์ Halley มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน สีนี้คือ Emberglow ออกโทนส้มแดง Mango Tonic โทนเขียวสะท้อนแสง และสี Radial Comet ในโทนดำ

Unpause Halley ราคา 4,690 บาท

If you like sneakers, we’re neighbors.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back To Top