หลายคนได้ยินชื่อแบรนด์ apex beat และชื่นชมในประสิทธิภาพรองเท้าคาร์บอนอย่าง Speed-1 กันไปแล้ว แต่วันนี้ apex beat สานต่อผลงานด้วยรองเท้ารุ่นใหม่อย่าง Swift ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนกแอ่น เจ้าเวหาที่สามารถพาปีกยาวๆ คู่ใจบินได้ต่อเนื่องกว่า 10 เดือนโดยไม่ต้องพัก แค่ชื่อรุ่นก็แอบบอกถึงความแรงของรองเท้ารุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
หน้าผ้า
ขอไล่ไปทีละส่วน เพราะแต่ละจุดเขาจัดเต็มรายละเอียดมากๆ ดังเช่นตัววัสดุ TPE ที่ค่อนข้างบางโปร่ง ระบายอากาศดี มีการซ้อนชั้นเลเยอร์ของหน้าผ้า แต่ไม่ได้เป็นปัญหาในการสวมใส่ บริเวณข้อเท้ามีการบุหนังนิ่มๆ ไม่ให้บาดข้อเท้าด้วย ด้านในมีบุบนวมล็อกข้อเท้าอีกชั้นนึง
หลายคนอาจจะคอมเมนต์เรื่องเชือกรองเท้าว่าล็อกได้แน่นหนาดี ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นผล เพราะปกติผูกเชือก 2 ชั้นอยู่แล้ว หรือเรื่องลิ้นรองเท้ายาวจนเกินไปจนทำให้ย่น อันนี้ก็ไม่ค่อยรู้สึกผิดปกติเท่าไหร่ โดยรวมใส่สบายไม่มีจุดไหนติดขัด
โฟม
แต่สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือโฟม S Power Foam หรือโฟม peba ที่เราคุ้นเคยกันในรองเท้า supershoe แบรนด์อื่นๆ ซึ่งเป็นการฉีดขึ้นรูปแบบ supercritical ขึ้นมาแล้วปรับจูนความหนาแน่นตามความต้องการ (วิธีการเดียวกับ ZoomX ของ Vaporfly หรือ PWRRUN HG ของ Endorphin Elite ไปจนถึงโฟมของ Rocket X 2) ซึ่งจุดนี้ที่ทำให้ apex beat Swift แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ตรงที่เขาจูนโฟมมาให้นุ่มสุดๆ และมีน้ำหนักเบาโคตรๆ (199 กรัม ไซส์ 9US) และไม่ยวบ
ที่ทำเช่นนั้นได้ คิดว่าทางแบรนด์เลือกให้โฟมมีความหนาแน่นน้อย นึกว่าโฟมที่มีความเด้งแต่โปร่ง เวลากดแล้วคืนตัวทันที แต่พอย้ำหลายๆ ทีก็คืนตัวไม่ทัน อะไรแบบนั้นเลย แต่ความนุ่มจะเป็นอะไรที่คุณแทบจะไม่เคยเจอในรองเท้าแบรนด์ไหนมาก่อนแน่นอน
คาร์บอน
จุดที่ทำให้นุ่มที่นุ่มขนาดนั้นไม่รู้สึกยวบ เราคิดว่ามี 2 ส่วนด้วยกันคือ แผ่นคาร์บอน Power Plate ที่คั่นกลางระหว่างโฟม 2 ชั้น เพื่อช่วยประครองให้รู้สึกมั่นคง โฟมยุบตัวมาเจอแผ่นพอดี แถมเพิ่มแรงส่งจากวัสดุคาร์บอนได้อีก ซึ่งเราสามารถเห็นแผ่นได้ที่ใต้เท้า เพราะเขาเจาะร่องโฟมลดน้ำหนักไปอีก
อีกส่วนที่ทำให้โฟมนี้ไม่ยวบคือแผ่น insole ด้านใน ที่ทางแบรนด์ก็ใส่ใจรายละเอียดในจุดนี้ด้วย เพราะเขาใช้วัสดุเดียวกับหน้าผ้ามาขึ้นรูปเป็นแผ่นโฟมอีกชั้น ที่มีความหนาแน่นมากกว่า เอาไว้เพื่อรับรูปทรงรองเท้าแต่ละคน เวลาใช้ไปนานๆ แผ่นยางตัวนี้จะปรับเข้ากับรูปเท้าไปเอง สองส่วนนี้กลมกลืนกันไป ทำให้เท้าที่ลงน้ำหนักมีตัวช่วยกระจายแรงกดไปนั่นเอง
พื้นยางชั้นนอกสุดเขาใช้ยาง 2 ชนิด ช่วยยึดเกาะบริเวณปลายเท้า และยางที่เพิ่มความทนทานบริเวณส้นเท้า เพื่อป้องกันพื้นสึกก่อนเวลาอันควร ตัวรองเท้าดรอป 8 มิล (ปลายเท้า 32 มิล ส้นเท้า 40 มิล) การันตีใส่แข่งไม่โดนตัดสิทธิแน่นอน
ฟิลลิ่ง
หลังจากการใช้งานมาสักระยะค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว เป็นรองเท้าคาร์บอนที่คุ้มค่าและมีคาแรกเตอร์ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ทั้งเรื่องความนุ่ม และน้ำหนักที่เบา จนทำให้เราวิ่งเพซสูงๆ โดยที่ไม่ได้ใช้แรงเยอะมาก ความสบายของโฟมก็ไม่ได้สปอยขาเยอะ
แต่ในจุดแข็งก็มีจุดอ่อนคือความหนาแน่นของโฟมที่น้อยแบบนี้ พอวิ่งไปนานๆ กลับรู้สึกเหมือนโฟมคืนตัวช้าลง ยิ่งระยะ 10 กิโลขึ้นไปจะรู้สึกตื้อๆ ที่บริเวณปลายเท้าแล้ว และเริ่มต้องใช้พลังงานจากขาตัวเองมากขึ้น เราว่าการวิ่งในระยะ 10 – 21 กิโลเป็นช่วงที่ตอบโจทย์ แต่ถ้ามาราธอนเราจะขอตัวเลือกของโฟมที่แน่นขึ้นกว่านี้อีกนิด อีกจุดที่อยากพูดถึงคือเรื่องสี เขาทำสีออกมาดีมาก เป็นเขียวไล่ไปเฉดเหลือง ลงตัวดีเลย นอกจากนี้ยังมีสีดำตัดชมพู และส้มตัดดำอีก ไปลองเลือกกันดูครับ
apex beat Swift ราคา 4,990 บาท
ซื้อเลยที่นี่
