หากใครคุ้นเคยกับรองเท้าสายทำความเร็วของ Skechers น่าจะรู้จักตระกูล Speed และ Razor เป็นอย่างดี ทั้งสองมีคาแรกเตอร์คล้ายๆ กันคือ เน้นน้ำหนักที่เบามาก และใช้แผ่นคาร์บอนแบบไม่เต็มแผ่นเข้ามาช่วยเพิ่มความกลิ้งของรองเท้า ทำให้ดึงจุดเด่นของรองเท้าน้ำหนักเบาได้ดียิ่งขึ้น และสองรุ่นใหม่ของ Skechers ที่ออกมาหน้าตาคล้ายๆ กันแถมฟิลลิ่งก็ดันคล้ายกันอีก จนเกิดคำถามว่าถ้าต้องซื้อคู่เดียว จะซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง Skechers Speed Freek และ Razor Excess 2
ขออธิบายที่มาที่ไปของทั้งสองรุ่นก่อน สำหรับ Skechers Speed Freek เป็นรองเท้าสำหรับมาราธอน ที่ออกมาเติมเต็มของ Skechers Speed Elite รองเท้าน้ำหนักเบา ที่เอาไว้ทำความเร็วระยะ 5-10 กิโลเมตร ส่วน Skechers Razor Excess 2 เป็นรุ่นต่อยอดจาก Razor Excess รุ่นแรก แต่เพิ่มแผ่นคาร์บอนรูปตัว H เข้ามา เรียกได้ว่าทั้งสองรุ่นมีส่วนประกอบคล้ายกันมาก
หน้าผ้า
ส่วนแรกที่ขอพูดถึงเลยคือหน้าผ้า Speed Freek เลือกใช้วัสดุตาข่ายโมโน (คล้ายๆ Vaporfly Next% รุ่นแรก) ที่ระบายอากาศได้ดี รู้สึกว่าพื้นที่ภายในรองเท้าพอดีๆ แอบชิดข้างเท้าด้านนอกเล็กน้อย แต่วิ่งๆ ไปก็ไม่รู้สึกอะไร ส่วน Razor Excess 2 ใช้ผ้าเมซ ที่มีความหนานุ่ม กระชับ ใส่สบายไม่บีบเท้า ก็แล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหน
ชอบ: Speed Freek
ลิ้นรองเท้า
อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ Skechers Speed Freek แตกต่างไปจาก Razor Excess 2 คือลิ้นรองเท้าและขอบรองเท้า เพราะ Speed Freek ใช้แผ่นหนังนูบักบางๆ ไม่บาดเท้า แถมตรงลิ้นยังเว้ากลางรับกับส่วนโค้งด้านบนของฝ่าเท้าเลย สำหรับผมใส่ได้พอดีมากๆ ส่วน Razor Excess 2 นั้น เหมาะกับคนที่ชอบความกระชับ เพราะตัวผ้าเมซเขาโอบรอบเท้าเหมือนล็อกเอาไว้เลย ลิ้นใช้ผ้าแบบเดียวกัน แต่เสริมฟองน้ำด้านในให้นุ่มขึ้นไปอีก
ชอบ: Speed Freek
โฟมและพื้นรองเท้า
แม้ทั้งสองรุ่นจะใช้โฟม Hyper Burst เหมือนกัน แต่ก็มีส่วนต่างเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น Razor Excess 2 ใช้ ARCHFIT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพิ่มความโค้งของพื้นรองเท้า ทำให้การวิ่งกลิ้งได้มากขึ้น ส่วน Speed Freek นั้นพื้นมีความโค้งอยู่แล้ว ส่วนที่ต่างอีกจุดคือความสูงของพื้นโฟม แม้ทั้งคู่จะดรอป 4 มิลเหมือนกัน ทำให้ฟิลลิ่งคล้ายกันมาก แต่ Speed Freek มีภาษีตรงโฟมหนากว่า โดยปลายเท้า 30 มิล และส้นเท้า 34 มิล ส่วน Razor Excess 2 ปลายเท้า 26 มิล ส้นเท้า 30 มิล ต่างกัน 4 มิลเท่านั้น แต่ความรู้สึกเวลาสวมรองเท้าของ Speed Freek จะไม่รู้สึกแข็งกระด้างเหมือนกับ Razor Excess 2
อีกจุดที่หายไปคือ รูช่วยในการใส่รองเท้า จะเห็นว่า Speed Freek ไม่จำเป็นต้องมีอีกแล้ว จุดสุดท้ายคือแผ่นยาง Good Year อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Skechers ก็ว่าได้ ซึ่งจะเห็นว่า Speed Freek ลดทอนน้ำหนักที่ไม่จำเป็นออกโดยการใช้แผ่นยางเฉพาะส่วนที่ลงน้ำหนักจริงๆ หรือโฟมมักจะสึกบริเวณนั้น ซึ่งก็คือบริเวณจมูกเท้าและส้นเท้านั่นเอง ส่วน Razor Excess 2 เขาจัดให้แบบเต็มแผ่น
ชอบ: Razor Excess 2
แผ่นคาร์บอน
ทั้งสองรุ่นใช้แผ่นคาร์บอนรูปตัว H เหมือนกัน เสียดายที่เราไม่มีรูปแผ่นคาร์บอนของ Razor Excess 2 มาให้ดู แต่เรามีรูปเทียบของ Speed Freek กับ Skechers Speed Beast ที่จะออกมาต่อไป และเป็นรุ่นที่โฟมหนาที่สุดในสายทำความเร็วด้วย นอกจากโฟมหนาแล้วจะเห็นว่าแผนคาร์บอนจะหนาขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แผ่นคาร์บอนของ Skechers ไม่ได้เข้ามาช่วยในเรื่องคาวมเด้ง เหมือนกับพวกคาร์บอนเต็มแผ่นของเจ้าอื่นๆ แต่แผ่นคาร์บอนของ Skechers นั้นเน้นไปที่การไหลหรือการกลิ้งของตัวรองเท้า ที่มีน้ำหนักเบาและความโค้งเป็นทุนเดิม จึงยิ่งช่วยการ rolling ได้มากขึ้น วิ่งแล้วรอบขามาดี ยิ่งใครไม่เคยลองรองเท้าน้ำหนักเบาๆ จะยิ่งสนุก
ชอบ: เสมอ
น้ำหนัก
ขึ้นชื่อว่ารองเท้าน้ำหนักเบาทั้งคู่แต่จะเบาสักแค่ไหนกันเชียว ปกติผมใส่ตรงไซซ์ที่ 9US ทั้งสองรุ่น แต่เห็นความต่างของน้ำหนักกันมากพอดู โดย Razor Excess 2 มีน้ำหนักประมาณ 227 กรัม ส่วน Speed Freek แม้โฟมจะหนาขึ้นแต่เบาขึ้นเหลือเชื่อ อยู่ที่ 197 กรัม เท่านั้น
ชอบ: Speed Freek
ซื้อคู่ไหนดี?
หลังจากการใช้งานมาสักระยะของทั้งสองรุ่น ความรู้สึกของการวิ่งแทบไม่ต่างกัน เพราะเป็นรองเท้าสายกลิ้งทั้งคู่อยู่แล้ว แต่ Skechers Speed Freek ได้เปรียบตรงที่มีโฟมหนามาช่วยลบความรู้สึกกระด้าง หรือแข็งจนเกินไปที่ Razor Excess 2 มีได้ พูดง่ายๆ ใส่วิ่งแล้วสบายเท้ากว่านั้นแหละ เรื่องความกลิ้งความไหลแทบไม่ต่างกัน ซึ่งทั้งสองรุ่นต้องอาศัยกำลังขาสักหน่อย จะวิ่งได้สนุกขึ้นมาก ส่วนตัวยังไม่เคยลองหยิบไปวิ่งไกลเกิน 25 กิโล เพราะรู้สึกว่า แค่นี้กำลังมีความสุขแล้ว แต่ใครเอาไปวิ่งจบฟูลมาราธอน แบบที่จุดประสงค์ของ Speed Freek ตั้งมาแล้วก็แบ่งปันกันบ้างนะ
เอาเป็นว่าใครใช้ Razor Excess 2 อยู่แล้วยังไม่อยากเปลี่ยนก็ปล่อยผ่านไป ส่วนใครอยากลองแล้วเลือกไม่ถูก จิ้มไปที่ Speed Freek เลยครับ คู่นี้เหมือนออกมาปรับแก้ส่วนที่ติดของ Razor Excess 2 และได้ปล่อยของเต็มที่ด้วย
Skechers Speed Freek ราคา 5,990 บาท
Skechers GOrun Razor Excess 2 ราคา 4,290 บาท
ซื้อได้ในลิงก์ที่นี่
